วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2557

แบบฝึกหัด
บทที่ 8 (กิจกรรม 8)                                                                กลุ่มเรียนที่  2
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                            รหัสวิชา 0026 008
ชื่อ สกุล  นาย ณัฐนนท์  จันทร์ตา        รหัส 57011010263

คำชี้แจง จงพิจารณากรณีศึกษานี้

1) “นาย A ทำการเขียนโปรแกรมขึ้นมาโปรแกรมหนึ่งเพื่อทดลองโจมตีการทำงานของคอมพิวเตอร์ สามารถใช้งานได้ โดยทำการระบุ IP-Address โปรแกรมนี้สร้างขึ้นมาเพื่อทดลองในงานวิจัย นาย B ที่ เป็นเพื่อนสนิทของนาย A ได้นำโปรแกรมนี้ไปทดลองใช้แกล้งนางสาว C เมื่อนางสาว C ทราบเข้าก็เลยนำโปรแกรมนี้ไปใช้และส่งต่อให้เพื่อนๆ ที่รู้จักได้ทดลองการกระทำอย่างนี้ ผิดจริยธรรม หรือผิดกฎหมาย ใดๆ หรือไม่ หากไม่ผิดเพราะเหตุใด และหากผิด ผิดในแง่ไหน จงอธิบาย

ตอบ  ผิดจริยธรรมเพราะนายทำการทดลองที่ผิดกฎหมาย ซ้ำยังสะเพร่าในการเก็บรักษาข้อมูล เป็นเห็ตให้ นายB สามารถนำข้อมูลดังกล่าว ไปสร้างความก่อกวน และส่งผลเสียแก่ผู้อื่น  เป็นการไม่รับผิดชอบต่อสังคม ไร้ซึ่งความละอายใจ


2) “นาย J ได้ทำการสร้างโฮมเพจ เพื่อบอกว่าโลกแบนโดยมีหลักฐาน อ้างอิงจากตำราต่างๆ อีกทั้ง รูปประกอบ เป็นการทำเพื่อความสนุกสนาน ไม่ได้ใช้ในการอ้างอิงทางวิชาการใดๆ เด็กชาย K เป็นนักเรียน ในระดับประถมปลายที่ทำรายงานส่งครูเป็นการบ้านภาคฤดูร้อนโดยใช้ข้อมูลจากโฮมเพจของนาย J” การ กระทำอย่างนี้ ผิดจริยธรรม หรือผิดกฎหมายใดๆ หรือไม่ หากไม่ผิดเพราะเหตุใด และหากผิด ผิดในแง่ไหน จงอธิบาย


ตอบ  จะตัดสินว่าผิดหรือไม่ ต้องดูที่เจตนาของผู้ที่สร้างเพจ หากตั้งใจกระทำเพื่อความสนุกสนาน ก็ควรที่จะระบุให้ชัดเจน หากไม่มีการระบุวัตถุประสงค์ที่ชัด อาจจะทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดอย่างไม่ได้เจตนา และเป็นการผิดจริยธรรมได้ เพราะโลกออนไลน์นั้น ผู้คนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็ว ผู้บริโภคจึงควรที่จะมีความรอบคอบให้มากๆ

วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

หอไอเฟล Eiffel Tower







                                          หอไอเฟล Eiffel Tower



หอไอเฟล (ฝรั่งเศส: Tour Eiffel, ตูร์แอฟแฟล; อังกฤษ: Eiffel Tower) หอคอยโครงสร้างเหล็กตั้งอยู่บนชองป์ เดอ มารส์ บริเวณแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส หอไอเฟลเป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ทั้งยังเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอีกด้วย
หอไอเฟลเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งชื่อตามสถาปนิกผู้ออกแบบ "กุสตาฟ ไอเฟล" ในปี พ.ศ. 2549 นักท่องเที่ยวกว่า 6,719,200 คนได้เข้าเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้และกว่า 200,000,000 คนตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง ส่งผลให้หอไอเฟลเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีคนเข้าชมมากที่สุดต่อปีอีกด้วย หอไอเฟลสูง 324 เมตร (1,063 ฟุต) หรือสูงเท่ากับตึก 81 ชั้น
เมื่อหอไอเฟลสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2432 (ค.ศ. 1889) หอไอเฟลกลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกแทนที่อนุสาวรีย์วอชิงตัน และได้ครองตำแหน่งนี้มาเรื่อยๆ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2473 (ค.ศ. 1930) ก็ได้เสียตำแหน่งให้แก่ตึกไครส์เลอร์ (319 เมตร หรือ 1,047 ฟุต) ที่เพิ่งสร้างเสร็จ หอไอเฟลเป็นสิ่งปลูกสร้างสูงที่สุดในกรุงปารีสและหากไม่นับรวมเสากระจายคลื่น หอไอเฟลเป็นสิ่งปลูกสร้างสูงที่สุดอันดับสองในฝรั่งเศส รองจากสะพานมีโย

       หอไอเฟลมีความสูง 300 เมตร (986 ฟุต) ซึ่งไม่รวม เสาอากาศ 24 เมตร (72 ฟุต) ด้านบนนั้น ถ้าเปรียบเทียบกับตึกแล้วจะมีประมาณ 75 ชั้น ในขณะที่ก่อสร้างปี พ.ศ. 2432 (ค.ศ. 1889) หอไอเฟลนั้นเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดบนโลก โดยถูกล้มตำแหน่งเมื่อเมืองนิวยอร์กได้สร้าง ตึกไครส์เลอร์ สูง 319 เมตร (1047 ฟุต)
ภาพการสร้างหอไอเฟลในขั้นต่างๆ
น้ำหนักเหล็กที่ใช้ก่อสร้างนั้นทั้งหมด 7,300 ตัน และถ้ารวมทั้งหมดก็เป็น 10,000 ตัน ส่วนจำนวนบันไดนั้นเปลี่ยนแปลงตลอด เมื่อแรกเริ่มนั้นมี 1710 ขั้น ในทศวรรษที่ 1980 มี 1920 ขั้น และในปัจจุบัน มี 1665 ขั้น

        ในวันที่อากาศดีอาจขึ้นไปชมวิวได้ถึงชั้นสูงสุดที่ 899 ฟุต ยามค่ำคืน หอไอเฟลจะเปิดไฟสวยงามมาก และมุมที่ดีที่สุดที่จะถ่ายภาพหอไอเฟล คือ บริเวณ Trocadero มีทั้งร้านขายของที่ระลึก และภัตตาคาร เปิดทุกวันเวลา 9.30-23.00 น. ค่าขึ้นลิฟต์ชม ชั้นแรก 20 ฟรังค์ ชั้นแรกและชั้นสอง 42 ฟรังค์ ชั้นแรก/ชั้นสอง/ชั้นสาม 59 ฟรังค์ 
หอไอเฟลตอนเช้า

หอไอเฟลตอนกลางคืน


ที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/หอไอเฟล

บทความเรื่อง โยคะ




โยคะ


โยคะลดน้ำหนัก

ปัจจุบันนี้ หลายคนมักประสบกับปัญหาด้านสุขภาพหลายๆอย่าง เนื่องจากขาดการออกกำลังกาย วันๆ ทำแต่งาน ท่าเดียว จึงทำให้ไม่มีเวลาได้ดูแลสุขภาพของตนเลย ด้วยเวลาที่รัดตัว ด้วยความเร่งรีบหลายๆอย่าง ไม่มีแม้กระทั้งเวลาจะพักผ่อน  วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับดีๆมาฝากคนที่รักสุขภาพ นั่นคือโยคะนั่นเอง เพราะโยคะ ไม่เพียงที่จะช่วยเรื่องความงามแต่ยังเสริมเรื่องของสุขภาพเอาไว้ด้วย การฝึกโยคะเป็นการฝึกท่าโยคะที่แลดูสวยงามและสง่าและจะค้างท่านั้นไว้ระยะหนึ่ง  โยคะจะเน้นความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกระดูกสันหลังทำให้เลือดและสารอาหารสามารถผ่านไปเลี้ยงประสาทไขสันหลัง โยคะจะช่วยให้การทำงานของต่อมต่างๆ รวมทั้งต่อมไร้ท่อทำงานดีขึ้น  การฝึกโยคะเป็นการยืดกล้ามเนื้อและมีการสอดคล้องกับการหายใจเป็นการรวมร่างกายและจิตใจเข้าไปด้วยกัน การฝึกท่าโยคะจะเป็นการฝึกความยืดหยุ่น ประสาท  ความแข็งแรง การทรงตัวเข้าด้วยกัน และยังช่วยให้ลดความอ่อนล้าของกล้ามเนื้อในร่างกายอีกด้วย อีกทั้งยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรงกล้ามเนื้อแข็งแรง สุขภาพจิตและสุขภาพกายดีขึ้น และยังช่วยกระชับส่วนต่างๆของร่างกายให้ดูดีอีกด้วยได้อีกด้วย ท่าที่ใช้สำหรับการฝึกโยคะมีมากมาหลายท่า และที่สำคัญวันนี้เราก็มีความเป็นมาของโยคะมาฝากกันอีกด้วย




ความเป็นมาของโยคะที่นำมาฝาก

โยคะลดน้ําหนัก หลายๆคนที่เล่นโยคะอยู่ตอนนี้คงจะยังไม่ทราบว่าโยคะนั้น ใครเป็นคนเริ่ม และถือกำเนิดมาจากไหน และนี่แหละจ้า คือความเป็นมาของโยคะ โยคะ นั้นถือกำเนิดในประเทศอินเดียเมื่อหลายพันปีที่แล้ว โดยในสมัยโบราณนั้นมนุษย์ได้ค้นคว้าเป็นครั้งแรกเกี่ยวกับความเข้าใจในความเป็นอยู่ของตนเอง อดีตมีการจารึกถ้อยคำด้วยตัวอักษรความรู้ที่สำคัญๆทั้งหมดถูกส่งผ่านคนรุ่นหนึ่งไปยังอีกรุ่นหนึ่งในรูปแบบของนิทาน ด้วยวิธีการเช่นนี้ ความรู้ต่างๆจึงได้สะสมขึ้นและวัฒนธรรมต่างๆได้พัฒนาขึ้นมาและนี่คือวิธีการที่การฝึกโยคะได้ถ่ายทอดมาถึงปัจจุบัน  ในหุบเขาแห่ง อินดัส วอลเลย์ มีนักโบราณคดีที่ค้นพบไม้แกะสลักและศิลปะรูปปั้นที่แสดงถึงการฝึกท่าโยคะแต่ก่อน ศิลปะเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นโดยประชาคมที่มีความเจริญเป็นอย่างสูง ซึ่งเจริญอยู่ในพื้นที่แถบนั้นในช่วง 1000ถึง2000 ปีก่อนคริสต์ศักราช และปัจจุบันเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของประเทศปากีสถาน นักปราชญ์ผู้หนึ่งซึ่งชาวฮินดูมีชื่อว่า พาตานจาลี เป็นคนแรกที่ปรับปรุงการฝึกโยคะขั้นพื้นฐานขึ้น เขาเขียนสูตรของการฝึกท่าโยคะออกเป็นหัวข้อ 8 หัวข้อสั้นๆ หัวข้อเหล่านี้เชื่อว่าได้ถูกเขียนขึ้นเมื่อ 200 ปีก่อนคริสต์ศักราช โดยผู้ที่ปฏิบัติโยคะที่เป็นผู้ชายเรียกว่า Yogins or Yogis ส่วนผู้หญิงเรียกว่า Yoginis ส่วนผู้สอนเรียกว่า guru และประเทศตะวันตกได้นำท่าโยคะต่างๆออกมาเป็นการออกกำลังกายโดยดัดแปลงจาก Hatha-Yoga ซึ่งเป็นแขนงหนึ่งของโยคะนั่นเอง



และหากคุณมีแผนการลดน้ำหนักที่อยากให้เห็นผลอย่างเร่งด่วน ควรเลือกฝึกท่าโยคะที่ได้ออกแรงมากเป็นพิเศษ รวมถึงเน้นท่าที่ได้บริหารส่วนไขมันพอกพูนให้ได้ลดได้มากที่สุด   และจะต้อง ปรับอาหารให้ทานน้อนลงไปด้วย จากกินข้าวมื้อละสี่จานลดเหลือหนึ่งจาน เน้นกินกับข้าวมากกว่าข้าว งดมื้อดึกอย่างเด็ดขาด แล้วดื่มน้ำแทนมากๆ บางมื้อกินแต่ผลไม้ โดยเฉพาะผลไม้ที่มีน้ำมาก เพื่อช่วยคลายอาการเหนื่อยร้อนจากการฝึกโยคะไปในตัวด้วย เช่น แตงโม ชมพู่ ฝรั่ง เพราะผลไม้จำพวกนี้สามารถช่วยลดน้ำหนักได้เช่นเดียวกัน

            ถ้าหากคุณอยากลดน้ำหนักแล้วละก็วิธีนี้รับรองว่าได้ผลแน่นอน  แต่ไม่ว่าคุณจะด้วยวิธีไหนเพียงแค่คุณออกกำลังกายสม่ำเสมอไม่ว่าจะออกกำลังกายด้วยวิธีไหนก็ตามก็ทำให้คุณสุขภาพดีได้เหมือนกัน ไม่แค่นั้นคุณจะต้องรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอแค่นี้คุณก็จะมีสุขภาพกาย และสุขภาพใจที่ดีแล้ว




วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

แบบฝึกหัด

บทที่ 7 ความปลอดภัยของสารสนเทศ        กลุ่มที่  2
รายวิชา   การจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน   รหัสวิชา 0026 008
ชื่อ –สกุล  นายณัฐนนท์   จันทร์ตา     รหัส  

คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้
1.   หน้าที่ของไฟร์วอลล์ (Firewall) คือ  
  ตอบ  รูปแบบของโปรแกรมหรืออุปกรณ์ที่ถูกจัดตั้งอยู่บนเครือข่ายเพื่อทำหน้าที่เป็นเครื่องมือรักษาความปลอดภัยให้กับเครือข่ายภายใน (Internet) โดยป้องกันผู้บุกรุก (Intrusion) ที่มาจากเครือข่ายภายนอก (Internet) หรือเป็นการกำหนดนโยบายการควบคุมการเข้าถึงระหว่างเครือข่ายสองเครือข่าย โดยสามารถกระทำได้โดยวิธีแตกต่างกันไป แล้วแต่ระบบ
     2.จงอธิบายคำศัพท์ต่อไปนี้ ที่เกี่ยวข้องกับไวรัสคอมพิวเตอร์ worm , virus computer, spy ware, adware มาอย่างน้อย 1 โปรแกรม
ตอบ   1. Worm  = คัดลอกตัวเองและสามารถส่งตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆได้อย่างอิสระ โดยอาศัยอีเมลล์หรือช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการ มักจะไม่แพร่เชื่อไปติดไฟล์อื่น สิ่งที่มันทำคือมักจะสร้างความเสียหายให้กับระบบเครือข่าย
          2.virus computer  = แพร่เชื้อไปติดไฟล์อื่นๆในคอมพิวเตอร์โดยการแนบตัวมันเองเข้าไป มันไม่สามารถส่งตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆได้ต้องอาศัยไฟล์พาหะ สิ่งที่มันทำคือสร้างความเสียหายให้กับไฟล์
                 3. spy ware = ไม่แพร่เชื้อไปติดไฟล์อื่นๆ ไม่สามารถส่งตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆได้ ต้องอาศัยการหลอกคนใช้ให้ดาวโหลดเอาไปใส่เครื่องเองห รืออาศัยช่องโหว่ของ web browser ในการติดตั้งตัวเองลงในเครื่องเหยื่อ สิ่งที่มันทำคือรบกวนและละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ ใช้
                4. adware = "โปรแกรมสนับสนุนโฆษณา" โดยทางบริษัทต่าง ๆ จะพยายามโฆษณาสินค้าของตนเอง เพื่อที่จะได้ขายสินค้านั้น ๆ ตัวอย่างเช่น ถ้าเราลองไปดาวน์โหลดโปรแกรมฟรีตามเว็ปต่าง ๆ เราก็จะเห็นโฆษณาสินค้าปรากฏขึ้นมาบ่อย ๆ ถ้าเราอยากให้โฆษณานั้นหายไป ก็ต้องจ่ายตังค์ค่าลิขสิทธิ์ เพื่อไม่ให้มีโฆษณาขึ้นมากวนใจอีกต่อไป
 3. ไวรัสคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็นกี่ชนิด อะไรบ้าง
      ตอบ   3 ชนิด  คือ 1. ไวรัสตามวิธีการติดต่อ    2. ไวรัสตามลักษณะการทำงาน     3.ไวรัสตามลักษณะแฟ้มที่ติดไวรัส  
4. ให้นิสิตอธิบายแนวทางในการป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์มาอย่างน้อย 5 ข้อ
   1ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสและอัปเดตข้อมูลไวรัสอยู่เสมอ
    2.ติดตั้งโปรแกรมอุดช่องโหว่(patch) โดยการอัปเดตซอฟต์แวร์และโปรแกรมประยุกต์ต่าง ๆ ให้ใหม่อยู่เสมอ
   3ปรับแต่งให้ซอฟต์แวร์ที่ใช้งานปลอดภัยสูงที่สุด
   4.ระวังภัยจากการเปิดไฟล์จากสื่อบันทึกข้อมูล(Media) ต่าง ๆ
   5.ใช้ความระมัดระวังในการเปิดอ่าน E-mail
5. มาตรการด้านจริยธรรมคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมการใช้อินเทอร์เน็ตที่เหมาะสมกับสังคมปัจจุบัน ได้แก่
   “ผู้ใดประสงค์แจกจ่ายแสดง อวดทําผลิตแก่ประชาชนหรือทําให้เผยแพร่ซึงเอกสาร ภาพระบายสีสิงพิมพ์ แถบบันทึกเสียง บันทึกภาพหรือเกียวเนืองกับสิงพิมพ์ดังกล่าว มีโทษจําคุก ปรับหรือทังจําทังปรับ

        ตัวอย่างซอฟต์แวร์ ได้แก่ House Keeper เป็นโปรแกรมสําหรับแก้ปัญหาภาพลามกอนาจารเนื้อหาสาระทีไม่เหมาะสม การใช้เว็บไม่เหมาะไม่ควร ฯลฯ” โดยนําไปติดตังกับเครืองคอมพิวเตอร์ทีบ้าน
แบบฝึกหัด
บทที่ 6 การประยุกต์ใช้สารสนเทศในชีวิตประจำวัน               กลุ่ม  2
รายวิชา   การจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน       รหัสวิชา 0026 008
ชื่อ นายณัฐนนท์  จันทร์ตา        รหัส  57011010263

คำชี้แจง จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว
1. การประยุกต์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ เป็นความหมายของข้อใด?
    1. เทคโนโลยีสารสนเทศ
    2. เทศโนโลยี
    3. สารสนเทศ
    4. พัฒนาการ
2. เทคโนโลยีสารสนเทศใดก่อให้เกิดผลด้านการเสริมสร้างความเท่าเทียมกันในสังคม?
   1. ควบคุมเครื่องปรับอากาศ
   2. ระบบการเรียนการสอนทางไกล
   3. การสร้างสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
   4. การพยากรณ์อากาศ
3. การฝากถอนเงินผ่านเอทีเอ็ม (ATM) เป็นลักษณะเด่นของเทคโนโลยีสารสนเทศข้อใด?
   1. ระบบอัตโนมัติ
   2. เปลี่ยนรูปแบบการบริการเป็นแบบกระจาย
   3. เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินการในหน่วยงานต่างๆ
   4. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
4. ข้อใดคือการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ?
   1. ระบบการโอนถ่ายเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
   2. บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต
   3. การติดต่อข้อมูลทางเครือข่าย
   4. ถูกทุกข้อ
 5. เทคโนโลยีสารสนเทศหมายถึงข้อใด?
   1. การประยุกต์เอาความรู้มาทำให้เกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษย์
   2. ข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี
   3. การนำเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์มาสร้างข้อมูลเพิ่มให้กับสารสนเทศ
   4. การนำเอาคอมพิวเตอร์มาใช้ในการจัดเก็บข้อมูล
6. เครื่องมือที่สำคัญในการในการจัดการสารสนเทศในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศคืออะไร?
    1. เทคโนโลยีการสื่อสาร
    2. สารสนเทศ
    3. คอมพิวเตอร์
    4. ถูกทุกข้อ
7. ข้อใดไม่ใช่บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศ?
   1. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
   2. เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถสั่งซื้อสินค้าจากที่บ้าน หรือสอบถามผลสอบได้
   3. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้บุคคลทุกระดับติดต่อกันได้อย่างรวดเร็ว
   4. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้มีการสร้างที่พักอาศัยที่มีคุณภาพ
8. ข้อใดไม่ใช่อุปกรณ์ที่ช่วยงานด้านสารสนเทศ?
   1. เครื่องถ่ายเอกสาร
   2. เครื่องโทรสาร
   3. เครื่องมินิคอมพิวเตอร์
   4. โทรทัศน์ วิทยุ
9. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับ เทคโนโลยีสารสนเทศ?
   1. เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินงานธุรกิจ
   2. พัฒนาอย่างรวดเร็วทั้งทางด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ข้อมูล และการสื่อสาร
   3. ไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
   4. จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น
 10. ข้อใดคือประโยชน์ที่ได้จากการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้กับการเรียน?
     1. ตรวจสอบผลการลงทะเบียน ผลการสอบได้
     2. สามารถสืบค้นข้อมูลได้จากแหล่งข้อมูลที่มีอยู่ทั่วโลกได้
     3. ติดต่อสื่อสารกับเพื่อน ครู อาจารย์ หรือส่งงานได้ทุกที่

     4. ถูกทุกข้อ

วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2557



แบบฝึกหัด
บทที่ 5 การจัดการสารสนเทศ                                                     กลุ่มเรียน 2
รายวิชา  การจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                         รหัสวิชา  0026008
ชื่อ-สกุล ณัฐนนท์ จันทร์ตา  รหัส 57011010263

คำชี้แจง  จงตอบคำถามต่อไปนี้
1.       จงอธิบายความหมายของการจัดการสารสนเทศ

การจัดการสารสนเทศ หมายถึง การทำกิจกรรมหลักต่างๆ ในการจัดหาการจัดโครงสร้าง(Organization)การควบคุม ผลิต การเผยแพร่และการใช้สารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานขององค์การทุกประเภทอย่างมีประสิทธิผล
การจัดการสารสนเทศ หมายถึง กระบวนการดำเนินงาน เช่น ทำดรรชนี การจัดหมวดหมู่ การจัดแฟ้มการทำรายการเพื่อการเข้าถึงเอกสารหรือสารสนเทศที่มีการบันทึกไว้ในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่จดหมายเหตุ(archive) เชิงประวัติ ถึงข้อมูลดิจิทัล (Middleton, 2002, p.13)-การจัดการสารสนเทศ หมายถึง การดำเนินการกับสารสนเทศในระดับองค์การ ได้แก่ การวางแผน การ จัดสรรงบประมาณ การจัดโครงสร้างองค์การ การจัดเจ้าหน้าที่ การกำหนดทิศทาง การฝึกอบรม และการควบคุมสารสนเทศ (Bent, 1999 อ้างใน Myburgh, 2000, p.10)กล่าวโดยสรุป การจัดการสารสนเทศ ความหมายถึง การผลิต จัดเก็บ ประมวลผล ค้นหา และเผยแพร่ สารสนเทศโดยจัดให้มีระบบสารสนเทศ การกระจายของสารสนเทศ ทั้งภายในและภายนอกองค์การ โดยมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารมาใช้ในการจัดการ รวมทั้งมีนโยบาย หรือ กลยุทธ์ระดับองค์การในการจัดการสารสนเทศ

2.       การจัดการสารสนเทศมีความสําคัญต่อบุคคลและต่อองค์การอย่างไร

การ จัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อบบุคคลคือบุคคลย่อมต้องการสารสนเทศหลายด้าน เพื่อการใช้ชีวิตอย่างราบรื่น มีความก้าวหน้าและมีความสุข เช่น ต้องการสารสนเทศเพื่อการดูแลรักษาสุขภาพ
การ จัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อองค์กรคือ ความสำคัญด้านการบริหารจัดการในยุคโลกาภิวัฒน์เป็นการบริหารภายใต้สภาวะที่ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีการแข่งขันทางธุรกิจสูง ผู้บริหารต้องการสารสนเทศที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อวิเคราะห์ปัญหาต่างๆของคู่แข่ง

3.       พัฒนาการของการจัดการสารสนเทศแบ่งออกเป็นกี่ยุค อะไรบ้าง


นักวิชาการทางด้านสารสนเทศศาสตร์ ได้กล่าวว่า การจัดการสารสนเทศ เพื่อปฎิบัติงาน  และการจัดการสารสนเทศก็เป็นสิ่งที่มนุษย์ได้กระทำมานานแล้ว นับแต่รู้จักคิดค้นขีดเขียน บันทึกข้อมูลสารสนเทศโดยทั่วไปมี 2 ยุค
         3.1การจัดการสารสนเทศด้วยมือ
 การจัดการสารสนเทศในระยะแรก สื่อในรูปสื่อสิ่งพิมพ์ การจัดการสารสนเทศเน้นระบบมือโดยการรวบรวมรายชื่อหนังสือที่มีการผลิตและเผยแพร่และเทคนิคในการจัดการเอกสารระยะแรกมีเทคนิคต่างๆเช่น การเรียงขนาดของหนังสือ เรียงหน้า และแบ่งตามสีของเล่มเป็นต้นหรือต้องใช้กำลังคนเป็นหลักการจัดเอกสารสารสนเทศนั้นๆ
         3.2การจัดการสารสนเทศโดยใช้คอมพิวเตอร์
         เกิดขึ้นโยคอมพิวเตอร์เมื่อสารสนเทศปริมาณมากมาย รูปลักษณะหลากหลายคอมพิวเตอร์ยังมีพัฒนาการของจากอดีตจนถึงปัจจุบัน นำมาใช้ในการสื่อสารข้อมูล และงานฐานข้อมูลเพื่อลดงานประจำโดยทรัพยากรอยู่ในรูปของกระดาษ เห็นได้ว่าคอมพิวเตอร์ถูกพัฒนานำมาใช้งานสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น  และใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
4.       จงยกตัวอย่างการจัดการสารสนเทศที่นิสิตใช้ในชีวิตประจำวันมา อย่างน้อย 3 ตัวอย่าง

1.การจัดการสารสนเทศด้านการศึกษา การหาข้อมูลเพื่อการศึกษา สามารถเรียนเรียนรู้ได้ตลอดเวลาตามความสนใจ

 2.การจัดการสารสนเทศด้านข้อมูลข่าวสาร สามารถรับรู้ข่าวสารได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ผ่านฐานข้อมูลหรือเครือข่ายอินเทอเน็ต

 3.การจัดการสารสนเทศด้านพาณิชย์ สามารถสั่งซื้อของบนอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ได้ออกไปซื้อเองที่หน้าร้าน ทำให้สะดวกมากขึ้น


ขอบคุณขอมูลจาก : http://0026008.blogspot.com/2012/08/5.html


วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2557

iPhone 6 (ไอโฟน 6) และ iPhone 6 Plus

เรียกได้ว่า เป็นข่าวล่ามาแรงเลยทีเดียวครับ ล่าสุด ทาง Bangkok Post ได้รายงานข่าว การวางจำหน่าย iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ในไทย เป็นวันที่ 24 ตุลาคมนี้ ส่วนราคา iPhone 6 และ iPhone 6 Plus นั้น เรียกได้ว่า แพงขึ้นอีก สรุปได้ดังนี้ครับ
• iPhone 6 ความจุ 16 GB ราคา 25,500 บาท
• iPhone 6 ความจุ 64 GB ราคา 29,400 บาท
• iPhone 6 ความจุ 128 GB ราคา 33,400 บาท
• iPhone 6 Plus ความจุ 16 GB ราคา 29,400 บาท
• iPhone 6 Plus ความจุ 64 GB ราคา 33,400 บาท
• iPhone 6 Plus ความจุ 128 GB ราคา 37,300 บาท
อย่างไรก็ดี ข้อมูลข้างต้น เป็นข้อมูลจากวงใน ยังไม่ได้รับการยืนยันจาก Apple แต่อย่างใด ส่วนราคา และโปรโมชั่นจากโอเปอร์เรเตอร์ 3 ค่ายในไทย อย่าง dtac, AIS และ TrueMove H จะรายงานให้ทราบกันอีกครั้งครับ - bangkokpost

iPhone 6 (ไอโฟน 6) และ iPhone 6 Plus เปิดตัวแล้ว! มาพร้อมชิป Apple A8 แบบ 64-bit พร้อมกล้อง 8 ล้านพิกเซลปรับปรุงใหม่
เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ iPhone 6 (ไอโฟน 6) ซึ่งในปีนี้ เปิดตัวทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ iPhone 6 หน้าจอ 4.7 นิ้ว และ iPhone 6 Plus หน้าจอ 5.5 นิ้ว โดยในเรื่องของดีไซน์นั้น ไม่ต่างจากภาพหลุดแม้แต่น้อยครับ ไม่ว่าจะเป็น ตัวเครื่องบางลง, ปุ่มปรับระดับเสียงดีไซน์ใหม่, ปุ่ม Power ย้ายมาอยู่ด้านข้าง ส่วนกล้องด้านหลัง มีลักษณะนูนเล็กน้อย นอกจากนี้ ในงาน ยังเปิดตัว Apple Watch หรือ iWatch ที่เรารู้จักกันดีอีกด้วย เรียกได้ว่า 2 ชั่วโมงของงานเปิดตัวในวันนี้ คุ้มค่าและเต็มอิ่มกันอย่างแน่นอน
โดยในปีนี้ iPhone 6 พัฒนาจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง iPhone 5S ถึง 8 หัวข้อใหญ่ๆ ด้วยกัน หลักๆ ก็เป็นเรื่องของ ดีไซน์, ชิป Apple A8, กล้องด้านหลัง, Wi-Fi, รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ Full HD, รัน iOS 8 และรองรับ NFC มาดูกันที่แต่ละหัวข้อครับว่า iPhone 6 (ไอโฟน 6) และ iPhone 6 Plus จะน่าสนใจกันอย่างไรบ้าง


ดีไซน์ของ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ไม่ใช่แค่หน้าจอใหญ่ แต่ยังบางกว่าเดิม

          iPhone 6 มาพร้อมหน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว แบบ Retina HD Display ความละเอียด 1334 x 750 พิกเซล (348 ppi) แม้ว่าหน้าจอจะมีขนาดใหญ่ขึ้น แต่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก เนื่องจากตัวเครื่องบางลงนั่นเอง โดย iPhone 6 บางเพียง 6.9 มิลลิเมตรเท่านั้น ส่วน iPhone 6 Plus มาพร้อมหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว แบบ Retina HD Display ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล หรือ Full HD บาง 7.1 มิลลิเมตรครับ




          มาดูกันที่ดีไซน์รอบๆ ตัวเครื่องกันบ้าง iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ผลิตจาก Anodized Aluminum, Stainless Steel และกระจก ที่ช่วยทำให้ตัวเครื่องหรูหรา แข็งแรง ทนทาน ซึ่งฝาด้านหลัง ผลิตให้เป็นชิ้นเดียวกัน (Unibody) ส่วนกล้องด้านหลัง มีลักษณะนูนเล็กน้อย และขอบตัวเครื่อง โค้งมนกว่าเดิม

แรงขึ้นด้วยชิป Apple A8 แบบ 64-bit


            iPhone 6 และ iPhone 6 Plus มาพร้อมกับชิป Apple A8 แบบ 64-bit ซึ่งประมวลผลได้เร็วขึ้น (CPU) 25% ส่วนหน่วยประมวลผลภาพ (GPU) แรงขึ้น 50% นอกจากนี้ ยังมีชิป Apple M8 coprocessor คำนวณด้านการเคลื่อนไหวผ่านทางเซ็นเซอร์ต่างๆ ทั้ง Accelerometer, Compass, Gyroscope และ Barometer (วัดความกดอากาศ)


กล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเท่าเดิม แต่ปรับปรุงเซ็นเซอร์ใหม่


         คาดหวังให้ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus มาพร้อมกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซลใช่หรือไม่? งานนี้ต้องบอกเลยว่า ผิดหวังไปตามๆ กันครับ เพราะ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus มาพร้อมกล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เท่า iPhone 5S แต่ได้ปรับปรุงเซ้นเซอร์ใหม่ ให้ถ่ายรูปได้สวยงามขึ้นกว่าเดิม ส่วนรูรับแสง กว้างสูงสุดที่ F/2.2
สำหรับฟีเจอร์ใหม่ของกล้อง iSight ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล บน iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ได้แก่
      • Focus Pixels : ทำงานโดยอาศัยโปรเซสเซอร์รับสัญญาณภาพชนิดใหม่ที่ออกแบบโดย Apple เซ็นเซอร์ที่มีข้อมูลภาพที่ถ่ายละเอียดขึ้นจะส่งผลให้ระบบออโต้โฟกัสทำงานได้ดีและเร็วขึ้น
      • Face Detection : ระบบตรวจจับใบหน้า สามารถจดจำใบหน้าได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น แม้แต่ใบหน้าที่อยู่ไกลออกไปหรือในกลุ่มคนเยอะๆ พร้อมทั้งยังปรับปรุงระบบตรวจจับการกะพริบตาและรอยยิ้ม รวมถึงการเลือกใบหน้าในโหมดถ่ายภาพรัวต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถจับภาพที่ดีที่สุดได้โดยอัตโนมัติอีกด้วย
       • Exposure Control : การควบคุมค่าแสง ปรับภาพถ่ายหรือวิดีโอให้สว่างขึ้นหรือมืดลงในหน้าต่างตัวอย่างภาพได้ถึง 4 ระดับ f-stop ด้วยการเลื่อนนิ้วง่ายๆ
      • Auto Stabilization : ระบบป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติ หมดปัญหาภาพเบลอที่เกิดจากการเคลื่อนไหวหรือมือสั่น เพราะระบบป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติจะถ่ายภาพที่ มีการเปิดรับแสงในระยะเวลาสั้นๆ จำนวน 4 ภาพติดกัน จากนั้นจะดึงส่วนที่ดีที่สุดของแต่ละภาพมารวมไว้ด้วยกัน เพื่อให้ได้ภาพที่มี noise, วัตถุเคลื่อนที่ หรือการสั่นที่เกิดจากการมือไหวน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
      • Optical Image Stabilization : ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล (เฉพาะ iPhone 6 Plus) จะทำงานร่วมกับชิป Apple A8, Gyroscope และชิป M8 สำหรับประมวลผลการเคลื่อนไหว เพื่อตรวจวัดข้อมูลการเคลื่อนไหวและจะขยับชิ้นเลนส์อย่างแม่นยำเพื่อชดเชยอาการมือสั่นในสภาพแสงน้อย
       • Photos App : แอปรูปภาพ เก็บช่วงเวลาที่น่าประทับใจ แล้วปรับแต่งในไม่กี่วินาทีด้วยเครื่องมือจัดองค์ประกอบภาพอัจฉริยะ ปุ่มปรับค่าต่างๆ และฟิลเตอร์ภาพถ่าย ในแอพรูปภาพ หรือถ้าแค่อยากถ่ายภาพง่ายๆ โดยไม่ต้องแต่งอะไร ก็สามารถทำได้โดยตรงจากหน้าจอล็อคโดยใช้รหัสผ่านหรือ Touch ID
       • Panorama : สามารถถ่ายภาพแบบพาโนรามาด้วยความละเอียดสูงสุดถึง 43 เมกะพิกเซล

รองรับการถ่ายวีดีโอ ความละเอียดระดับ 1080p แล้ว

        นอกจากกล้อง iSight จะปรับปรุงฟีเจอร์ด้านการใช้งานแล้ว ในส่วนของการถ่ายภาพวีดีโอ ยังรองรับที่ความละเอียดระดับ 1080p อีกด้วย ส่วนการถ่ายภาพแบบ Slo-Mo ยังเก็บรายละเอียดได้มากขึ้น ที่ 240 fps (จากเดิม 120 fps)



กล้อง FaceTime รับแสงได้มากขึ้นถึง 81%

        นอกจากจะปรับปรุงกล้องด้านหลังแบบ iSight แล้ว ในส่วนของกล้อง FaceTime ก็ได้รับการปรับปรุงเช่นกัน โดยมาพร้อมกับความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล, รูรับแสงกว้าง F/2.2 ที่ช่วยทำให้รับแสงได้มากขึ้นถึง 81% อีกทั้งยังตรวจจับใบหน้าได้แม่นยำกว่าเดิม นอกจากนี้ ยังมี โหมดถ่ายภาพรัวต่อเนื่องแบบใหม่ (Burst Mode) ที่จับภาพได้ถึง 10 ภาพต่อวินาที

Wi-Fi เร็วขึ้น 3 เท่า

         iPhone 6 (ไอโฟน 6) และ iPhone 6 Plus มาพร้อมกับระบบการเชื่อมต่อ Wi-Fi มาตรฐานแบบ 802.11ac ทำให้ได้ Wi-Fi ที่รวดเร็วกว่าแบบ 802.11n ถึง 3 เท่า ส่วนเครือข่าย LTE อัตราการรับส่งข้อมูล สูงสุดถึง 150 Mbps อีกทั้งรองรับ LTE ได้ถึง 20 ย่านความถี่ และ LTE-A รวมถึงใช้งาน VoLTE ได้ในตัวแล้ว

iPhone 6 และ iPhone 6 Plus รองรับ NFC แล้ว กับ Apple Pay


กล้องใน iPhone 6, iPhone 6 Plus ขึ้นแท่นอันดับ 1 คุณภาพดีที่สุดในสมาร์ทโฟน


            ไม่ได้จะอวยแต่ของเขาดีจริง ผลการทดสอบชี้กล้องของ iPhone 6, iPhone 6 Plus คุณภาพดีอย่างยิ่งและได้คะแนนสูงสุดในการทดสอบเหนือคู่แข่ง Galaxy S5 และ Sony Xperia Z3
ผลรายงานนี้จาก DxO lap ที่ทำหน้าที่ทดสอบคุณภาพของกล้องตั้งแต่ระดับเริ่มต้นของสมาร์ทโฟนไปจนถึงกล้องระดับโปรอย่าง DSLRs ทั้งหลาย ได้ทดสอบและเปรียบเทียบคุณภาพของภาพที่ได้จากกล้องต่างๆ โดยถึงขนาดเอ่ยปากชมว่า “แอปเปิ้ลได้สร้างมาตรฐานใหม่ของรูปภาพจากกล้องในสมาร์ทโฟน”
The company said that Apple has “set the gold standard for smartphone image quality
DxO แจ้งต่อว่าด้วยจุดเด่น 2 จุดคือการโฟกัสที่เร็วขึ้นและการกันสั่นจากชิ้นเลนส์(OIS) ใน iPhone 6 Plus นั้นผลทดสอบทำได้ดีในห้องทดลองและการใช้งานจริง
นอกจากนี้ทาง DxO ยังได้พูดถึงเรื่องการจัดการเรื่องแสงแบบอัตโนมัติได้ดีมาก (auto-exposure), การโฟกัสรูปที่รวดเร็ว, ความละเอียดที่  8 ล้านพิกเซลแม้จะเท่าเดิมแต่ก็เพิ่มรายละเอียดต่างๆ ได้ดีขึ้นแม้รูปที่ถ่ายกลางแจ้งหรือในที่แสงน้อยที่ระบบการจัดการ noise  นั้นทำได้ดีมากเช่นกัน

ยืนยันแล้ว iPhone 6 Plus มาพร้อมแบตขนาด 2915 mAh, 




เปิดขายวันแรกอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ก่อนหน้าดู Drop Test กันไปแล้วทีนี้มาดูสเปคของฮาร์ดแวร์ด้านในที่น่าสนใจกันบ้าง
ทาง iFixit ได้แกะดูสเปคของ iPhone 6 Plus กันแล้วว่าข้างในเป็นอย่างไรบ้างหลักๆ ที่น่าสนใจคือเรื่องแบตเตอรีได้รับการยืนยันแล้วว่ามาพร้อมความจุ 2915 mAh
นอกจากนี้สเปคหลักๆ ของ iPhone 6 Plus ก็จะประกอบไปด้วย
- Apple A8 processor 64-bit architecture
- M8 second-generation motion coprocessor
- 16, 64, or 128 GB onboard storage capacity
- 5.5-inch 1920×1080 pixels (401 ppi) Retina HD display
- 8 MP iSight camera (with 1.5µ pixels, phase-detection autofocus, and optical image stabilization) and a 1.2 MP FaceTime camera
- Touch ID home button fingerprint sensor, barometer, 3-axis gyro, accelerometer, ambient light sensor
- 802.11a/b/g/n/ac Wi‑Fi + Bluetooth 4.0 + NFC + 20-band LTE


ขอบคุณข้อมูลจาก  : http://www.iphonemod.net/category/iphones

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.iphonemod.net/category/iphones