วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2557



แบบฝึกหัด
บทที่ 5 การจัดการสารสนเทศ                                                     กลุ่มเรียน 2
รายวิชา  การจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                         รหัสวิชา  0026008
ชื่อ-สกุล ณัฐนนท์ จันทร์ตา  รหัส 57011010263

คำชี้แจง  จงตอบคำถามต่อไปนี้
1.       จงอธิบายความหมายของการจัดการสารสนเทศ

การจัดการสารสนเทศ หมายถึง การทำกิจกรรมหลักต่างๆ ในการจัดหาการจัดโครงสร้าง(Organization)การควบคุม ผลิต การเผยแพร่และการใช้สารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานขององค์การทุกประเภทอย่างมีประสิทธิผล
การจัดการสารสนเทศ หมายถึง กระบวนการดำเนินงาน เช่น ทำดรรชนี การจัดหมวดหมู่ การจัดแฟ้มการทำรายการเพื่อการเข้าถึงเอกสารหรือสารสนเทศที่มีการบันทึกไว้ในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่จดหมายเหตุ(archive) เชิงประวัติ ถึงข้อมูลดิจิทัล (Middleton, 2002, p.13)-การจัดการสารสนเทศ หมายถึง การดำเนินการกับสารสนเทศในระดับองค์การ ได้แก่ การวางแผน การ จัดสรรงบประมาณ การจัดโครงสร้างองค์การ การจัดเจ้าหน้าที่ การกำหนดทิศทาง การฝึกอบรม และการควบคุมสารสนเทศ (Bent, 1999 อ้างใน Myburgh, 2000, p.10)กล่าวโดยสรุป การจัดการสารสนเทศ ความหมายถึง การผลิต จัดเก็บ ประมวลผล ค้นหา และเผยแพร่ สารสนเทศโดยจัดให้มีระบบสารสนเทศ การกระจายของสารสนเทศ ทั้งภายในและภายนอกองค์การ โดยมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารมาใช้ในการจัดการ รวมทั้งมีนโยบาย หรือ กลยุทธ์ระดับองค์การในการจัดการสารสนเทศ

2.       การจัดการสารสนเทศมีความสําคัญต่อบุคคลและต่อองค์การอย่างไร

การ จัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อบบุคคลคือบุคคลย่อมต้องการสารสนเทศหลายด้าน เพื่อการใช้ชีวิตอย่างราบรื่น มีความก้าวหน้าและมีความสุข เช่น ต้องการสารสนเทศเพื่อการดูแลรักษาสุขภาพ
การ จัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อองค์กรคือ ความสำคัญด้านการบริหารจัดการในยุคโลกาภิวัฒน์เป็นการบริหารภายใต้สภาวะที่ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีการแข่งขันทางธุรกิจสูง ผู้บริหารต้องการสารสนเทศที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อวิเคราะห์ปัญหาต่างๆของคู่แข่ง

3.       พัฒนาการของการจัดการสารสนเทศแบ่งออกเป็นกี่ยุค อะไรบ้าง


นักวิชาการทางด้านสารสนเทศศาสตร์ ได้กล่าวว่า การจัดการสารสนเทศ เพื่อปฎิบัติงาน  และการจัดการสารสนเทศก็เป็นสิ่งที่มนุษย์ได้กระทำมานานแล้ว นับแต่รู้จักคิดค้นขีดเขียน บันทึกข้อมูลสารสนเทศโดยทั่วไปมี 2 ยุค
         3.1การจัดการสารสนเทศด้วยมือ
 การจัดการสารสนเทศในระยะแรก สื่อในรูปสื่อสิ่งพิมพ์ การจัดการสารสนเทศเน้นระบบมือโดยการรวบรวมรายชื่อหนังสือที่มีการผลิตและเผยแพร่และเทคนิคในการจัดการเอกสารระยะแรกมีเทคนิคต่างๆเช่น การเรียงขนาดของหนังสือ เรียงหน้า และแบ่งตามสีของเล่มเป็นต้นหรือต้องใช้กำลังคนเป็นหลักการจัดเอกสารสารสนเทศนั้นๆ
         3.2การจัดการสารสนเทศโดยใช้คอมพิวเตอร์
         เกิดขึ้นโยคอมพิวเตอร์เมื่อสารสนเทศปริมาณมากมาย รูปลักษณะหลากหลายคอมพิวเตอร์ยังมีพัฒนาการของจากอดีตจนถึงปัจจุบัน นำมาใช้ในการสื่อสารข้อมูล และงานฐานข้อมูลเพื่อลดงานประจำโดยทรัพยากรอยู่ในรูปของกระดาษ เห็นได้ว่าคอมพิวเตอร์ถูกพัฒนานำมาใช้งานสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น  และใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
4.       จงยกตัวอย่างการจัดการสารสนเทศที่นิสิตใช้ในชีวิตประจำวันมา อย่างน้อย 3 ตัวอย่าง

1.การจัดการสารสนเทศด้านการศึกษา การหาข้อมูลเพื่อการศึกษา สามารถเรียนเรียนรู้ได้ตลอดเวลาตามความสนใจ

 2.การจัดการสารสนเทศด้านข้อมูลข่าวสาร สามารถรับรู้ข่าวสารได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ผ่านฐานข้อมูลหรือเครือข่ายอินเทอเน็ต

 3.การจัดการสารสนเทศด้านพาณิชย์ สามารถสั่งซื้อของบนอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ได้ออกไปซื้อเองที่หน้าร้าน ทำให้สะดวกมากขึ้น


ขอบคุณขอมูลจาก : http://0026008.blogspot.com/2012/08/5.html


วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2557

iPhone 6 (ไอโฟน 6) และ iPhone 6 Plus

เรียกได้ว่า เป็นข่าวล่ามาแรงเลยทีเดียวครับ ล่าสุด ทาง Bangkok Post ได้รายงานข่าว การวางจำหน่าย iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ในไทย เป็นวันที่ 24 ตุลาคมนี้ ส่วนราคา iPhone 6 และ iPhone 6 Plus นั้น เรียกได้ว่า แพงขึ้นอีก สรุปได้ดังนี้ครับ
• iPhone 6 ความจุ 16 GB ราคา 25,500 บาท
• iPhone 6 ความจุ 64 GB ราคา 29,400 บาท
• iPhone 6 ความจุ 128 GB ราคา 33,400 บาท
• iPhone 6 Plus ความจุ 16 GB ราคา 29,400 บาท
• iPhone 6 Plus ความจุ 64 GB ราคา 33,400 บาท
• iPhone 6 Plus ความจุ 128 GB ราคา 37,300 บาท
อย่างไรก็ดี ข้อมูลข้างต้น เป็นข้อมูลจากวงใน ยังไม่ได้รับการยืนยันจาก Apple แต่อย่างใด ส่วนราคา และโปรโมชั่นจากโอเปอร์เรเตอร์ 3 ค่ายในไทย อย่าง dtac, AIS และ TrueMove H จะรายงานให้ทราบกันอีกครั้งครับ - bangkokpost

iPhone 6 (ไอโฟน 6) และ iPhone 6 Plus เปิดตัวแล้ว! มาพร้อมชิป Apple A8 แบบ 64-bit พร้อมกล้อง 8 ล้านพิกเซลปรับปรุงใหม่
เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ iPhone 6 (ไอโฟน 6) ซึ่งในปีนี้ เปิดตัวทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ iPhone 6 หน้าจอ 4.7 นิ้ว และ iPhone 6 Plus หน้าจอ 5.5 นิ้ว โดยในเรื่องของดีไซน์นั้น ไม่ต่างจากภาพหลุดแม้แต่น้อยครับ ไม่ว่าจะเป็น ตัวเครื่องบางลง, ปุ่มปรับระดับเสียงดีไซน์ใหม่, ปุ่ม Power ย้ายมาอยู่ด้านข้าง ส่วนกล้องด้านหลัง มีลักษณะนูนเล็กน้อย นอกจากนี้ ในงาน ยังเปิดตัว Apple Watch หรือ iWatch ที่เรารู้จักกันดีอีกด้วย เรียกได้ว่า 2 ชั่วโมงของงานเปิดตัวในวันนี้ คุ้มค่าและเต็มอิ่มกันอย่างแน่นอน
โดยในปีนี้ iPhone 6 พัฒนาจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง iPhone 5S ถึง 8 หัวข้อใหญ่ๆ ด้วยกัน หลักๆ ก็เป็นเรื่องของ ดีไซน์, ชิป Apple A8, กล้องด้านหลัง, Wi-Fi, รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ Full HD, รัน iOS 8 และรองรับ NFC มาดูกันที่แต่ละหัวข้อครับว่า iPhone 6 (ไอโฟน 6) และ iPhone 6 Plus จะน่าสนใจกันอย่างไรบ้าง


ดีไซน์ของ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ไม่ใช่แค่หน้าจอใหญ่ แต่ยังบางกว่าเดิม

          iPhone 6 มาพร้อมหน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว แบบ Retina HD Display ความละเอียด 1334 x 750 พิกเซล (348 ppi) แม้ว่าหน้าจอจะมีขนาดใหญ่ขึ้น แต่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก เนื่องจากตัวเครื่องบางลงนั่นเอง โดย iPhone 6 บางเพียง 6.9 มิลลิเมตรเท่านั้น ส่วน iPhone 6 Plus มาพร้อมหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว แบบ Retina HD Display ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล หรือ Full HD บาง 7.1 มิลลิเมตรครับ




          มาดูกันที่ดีไซน์รอบๆ ตัวเครื่องกันบ้าง iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ผลิตจาก Anodized Aluminum, Stainless Steel และกระจก ที่ช่วยทำให้ตัวเครื่องหรูหรา แข็งแรง ทนทาน ซึ่งฝาด้านหลัง ผลิตให้เป็นชิ้นเดียวกัน (Unibody) ส่วนกล้องด้านหลัง มีลักษณะนูนเล็กน้อย และขอบตัวเครื่อง โค้งมนกว่าเดิม

แรงขึ้นด้วยชิป Apple A8 แบบ 64-bit


            iPhone 6 และ iPhone 6 Plus มาพร้อมกับชิป Apple A8 แบบ 64-bit ซึ่งประมวลผลได้เร็วขึ้น (CPU) 25% ส่วนหน่วยประมวลผลภาพ (GPU) แรงขึ้น 50% นอกจากนี้ ยังมีชิป Apple M8 coprocessor คำนวณด้านการเคลื่อนไหวผ่านทางเซ็นเซอร์ต่างๆ ทั้ง Accelerometer, Compass, Gyroscope และ Barometer (วัดความกดอากาศ)


กล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเท่าเดิม แต่ปรับปรุงเซ็นเซอร์ใหม่


         คาดหวังให้ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus มาพร้อมกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซลใช่หรือไม่? งานนี้ต้องบอกเลยว่า ผิดหวังไปตามๆ กันครับ เพราะ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus มาพร้อมกล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เท่า iPhone 5S แต่ได้ปรับปรุงเซ้นเซอร์ใหม่ ให้ถ่ายรูปได้สวยงามขึ้นกว่าเดิม ส่วนรูรับแสง กว้างสูงสุดที่ F/2.2
สำหรับฟีเจอร์ใหม่ของกล้อง iSight ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล บน iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ได้แก่
      • Focus Pixels : ทำงานโดยอาศัยโปรเซสเซอร์รับสัญญาณภาพชนิดใหม่ที่ออกแบบโดย Apple เซ็นเซอร์ที่มีข้อมูลภาพที่ถ่ายละเอียดขึ้นจะส่งผลให้ระบบออโต้โฟกัสทำงานได้ดีและเร็วขึ้น
      • Face Detection : ระบบตรวจจับใบหน้า สามารถจดจำใบหน้าได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น แม้แต่ใบหน้าที่อยู่ไกลออกไปหรือในกลุ่มคนเยอะๆ พร้อมทั้งยังปรับปรุงระบบตรวจจับการกะพริบตาและรอยยิ้ม รวมถึงการเลือกใบหน้าในโหมดถ่ายภาพรัวต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถจับภาพที่ดีที่สุดได้โดยอัตโนมัติอีกด้วย
       • Exposure Control : การควบคุมค่าแสง ปรับภาพถ่ายหรือวิดีโอให้สว่างขึ้นหรือมืดลงในหน้าต่างตัวอย่างภาพได้ถึง 4 ระดับ f-stop ด้วยการเลื่อนนิ้วง่ายๆ
      • Auto Stabilization : ระบบป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติ หมดปัญหาภาพเบลอที่เกิดจากการเคลื่อนไหวหรือมือสั่น เพราะระบบป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติจะถ่ายภาพที่ มีการเปิดรับแสงในระยะเวลาสั้นๆ จำนวน 4 ภาพติดกัน จากนั้นจะดึงส่วนที่ดีที่สุดของแต่ละภาพมารวมไว้ด้วยกัน เพื่อให้ได้ภาพที่มี noise, วัตถุเคลื่อนที่ หรือการสั่นที่เกิดจากการมือไหวน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
      • Optical Image Stabilization : ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล (เฉพาะ iPhone 6 Plus) จะทำงานร่วมกับชิป Apple A8, Gyroscope และชิป M8 สำหรับประมวลผลการเคลื่อนไหว เพื่อตรวจวัดข้อมูลการเคลื่อนไหวและจะขยับชิ้นเลนส์อย่างแม่นยำเพื่อชดเชยอาการมือสั่นในสภาพแสงน้อย
       • Photos App : แอปรูปภาพ เก็บช่วงเวลาที่น่าประทับใจ แล้วปรับแต่งในไม่กี่วินาทีด้วยเครื่องมือจัดองค์ประกอบภาพอัจฉริยะ ปุ่มปรับค่าต่างๆ และฟิลเตอร์ภาพถ่าย ในแอพรูปภาพ หรือถ้าแค่อยากถ่ายภาพง่ายๆ โดยไม่ต้องแต่งอะไร ก็สามารถทำได้โดยตรงจากหน้าจอล็อคโดยใช้รหัสผ่านหรือ Touch ID
       • Panorama : สามารถถ่ายภาพแบบพาโนรามาด้วยความละเอียดสูงสุดถึง 43 เมกะพิกเซล

รองรับการถ่ายวีดีโอ ความละเอียดระดับ 1080p แล้ว

        นอกจากกล้อง iSight จะปรับปรุงฟีเจอร์ด้านการใช้งานแล้ว ในส่วนของการถ่ายภาพวีดีโอ ยังรองรับที่ความละเอียดระดับ 1080p อีกด้วย ส่วนการถ่ายภาพแบบ Slo-Mo ยังเก็บรายละเอียดได้มากขึ้น ที่ 240 fps (จากเดิม 120 fps)



กล้อง FaceTime รับแสงได้มากขึ้นถึง 81%

        นอกจากจะปรับปรุงกล้องด้านหลังแบบ iSight แล้ว ในส่วนของกล้อง FaceTime ก็ได้รับการปรับปรุงเช่นกัน โดยมาพร้อมกับความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล, รูรับแสงกว้าง F/2.2 ที่ช่วยทำให้รับแสงได้มากขึ้นถึง 81% อีกทั้งยังตรวจจับใบหน้าได้แม่นยำกว่าเดิม นอกจากนี้ ยังมี โหมดถ่ายภาพรัวต่อเนื่องแบบใหม่ (Burst Mode) ที่จับภาพได้ถึง 10 ภาพต่อวินาที

Wi-Fi เร็วขึ้น 3 เท่า

         iPhone 6 (ไอโฟน 6) และ iPhone 6 Plus มาพร้อมกับระบบการเชื่อมต่อ Wi-Fi มาตรฐานแบบ 802.11ac ทำให้ได้ Wi-Fi ที่รวดเร็วกว่าแบบ 802.11n ถึง 3 เท่า ส่วนเครือข่าย LTE อัตราการรับส่งข้อมูล สูงสุดถึง 150 Mbps อีกทั้งรองรับ LTE ได้ถึง 20 ย่านความถี่ และ LTE-A รวมถึงใช้งาน VoLTE ได้ในตัวแล้ว

iPhone 6 และ iPhone 6 Plus รองรับ NFC แล้ว กับ Apple Pay


กล้องใน iPhone 6, iPhone 6 Plus ขึ้นแท่นอันดับ 1 คุณภาพดีที่สุดในสมาร์ทโฟน


            ไม่ได้จะอวยแต่ของเขาดีจริง ผลการทดสอบชี้กล้องของ iPhone 6, iPhone 6 Plus คุณภาพดีอย่างยิ่งและได้คะแนนสูงสุดในการทดสอบเหนือคู่แข่ง Galaxy S5 และ Sony Xperia Z3
ผลรายงานนี้จาก DxO lap ที่ทำหน้าที่ทดสอบคุณภาพของกล้องตั้งแต่ระดับเริ่มต้นของสมาร์ทโฟนไปจนถึงกล้องระดับโปรอย่าง DSLRs ทั้งหลาย ได้ทดสอบและเปรียบเทียบคุณภาพของภาพที่ได้จากกล้องต่างๆ โดยถึงขนาดเอ่ยปากชมว่า “แอปเปิ้ลได้สร้างมาตรฐานใหม่ของรูปภาพจากกล้องในสมาร์ทโฟน”
The company said that Apple has “set the gold standard for smartphone image quality
DxO แจ้งต่อว่าด้วยจุดเด่น 2 จุดคือการโฟกัสที่เร็วขึ้นและการกันสั่นจากชิ้นเลนส์(OIS) ใน iPhone 6 Plus นั้นผลทดสอบทำได้ดีในห้องทดลองและการใช้งานจริง
นอกจากนี้ทาง DxO ยังได้พูดถึงเรื่องการจัดการเรื่องแสงแบบอัตโนมัติได้ดีมาก (auto-exposure), การโฟกัสรูปที่รวดเร็ว, ความละเอียดที่  8 ล้านพิกเซลแม้จะเท่าเดิมแต่ก็เพิ่มรายละเอียดต่างๆ ได้ดีขึ้นแม้รูปที่ถ่ายกลางแจ้งหรือในที่แสงน้อยที่ระบบการจัดการ noise  นั้นทำได้ดีมากเช่นกัน

ยืนยันแล้ว iPhone 6 Plus มาพร้อมแบตขนาด 2915 mAh, 




เปิดขายวันแรกอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ก่อนหน้าดู Drop Test กันไปแล้วทีนี้มาดูสเปคของฮาร์ดแวร์ด้านในที่น่าสนใจกันบ้าง
ทาง iFixit ได้แกะดูสเปคของ iPhone 6 Plus กันแล้วว่าข้างในเป็นอย่างไรบ้างหลักๆ ที่น่าสนใจคือเรื่องแบตเตอรีได้รับการยืนยันแล้วว่ามาพร้อมความจุ 2915 mAh
นอกจากนี้สเปคหลักๆ ของ iPhone 6 Plus ก็จะประกอบไปด้วย
- Apple A8 processor 64-bit architecture
- M8 second-generation motion coprocessor
- 16, 64, or 128 GB onboard storage capacity
- 5.5-inch 1920×1080 pixels (401 ppi) Retina HD display
- 8 MP iSight camera (with 1.5µ pixels, phase-detection autofocus, and optical image stabilization) and a 1.2 MP FaceTime camera
- Touch ID home button fingerprint sensor, barometer, 3-axis gyro, accelerometer, ambient light sensor
- 802.11a/b/g/n/ac Wi‑Fi + Bluetooth 4.0 + NFC + 20-band LTE


ขอบคุณข้อมูลจาก  : http://www.iphonemod.net/category/iphones

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.iphonemod.net/category/iphones



ประวัติวอลเลย์บอล ข้อมูล กีฬาวอลเลย์บอล




             
          กีฬาวอลเลย์บอลเป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬายอดนิยม ที่มีการแข่งขันระดับชาติ และนิยมเล่นกันอย่างแพร่หลาย จนถูกรวมเข้ากับหลักสูตรการเรียนการสอนชั้นมัธยมศึกษาในหลายโรงเรียน ซึ่งหลายคนก็คง อยากรู้จักกับกีฬาวอลเลย์บอลให้มากขึ้นเพื่อความสนุกในการชมและเชียร์กีฬาชนิดนี้ใช่ไหมเอ่ย ? 
วันนี้ผมมีข้อมูลของกีฬาวอลเลย์บอลมาฝากกันนะครับบ ลองมาดิว่ากีฬาชนิดนี้มีประวัติความเป็นมากันอย่างไร ..



ประวัติวอลเลย์บอล

         
 กีฬาวอลเลย์บอล (Volleyball) นั้น ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1895 (พ.ศ.2438) โดย นายวิลเลียม จี. มอร์แกน (William G. Morgan) ผู้อำนวยการฝ่ายพลศึกษาของสมาคม Y.M.C.A. (Young Men's Christian Association) ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ต้องการมีกีฬาสำหรับเล่นในช่วงฤดูหนาวแทนกีฬากลางแจ้ง เพื่อออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจยามหิมะตก

          โดย นายวิลเลียม จี. มอร์แกน เกิดไอเดียในการพัฒนากีฬาวอลเลย์บอลขึ้น ขณะที่เขากำลังนั่งดูเทนนิส และเลือกนำเอาตาข่ายกลางสนามของกีฬาเทนนิส มาเป็นส่วนประกอบในกีฬาที่เขาคิดค้น และเลือกใช้ยางในของลูกบาสเก็ตบอล มาเป็นลูกบอลที่ใช้ตีโต้ตอบกันไปมา แต่ยางในของลูกบาสเก็ตบอลกลับให้น้ำหนักเบาจนเกินไป จึงเปลี่ยนไปใช้ลูกบาสเก็ตบอลแทน ซึ่งลูกบาสเก็ตบอลก็มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากจนเกินไปอีก เขาจึงสั่งทำลูกบอลขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะ ในขนาดเส้นรอบวง 25-27 นิ้ว และกำหนดน้ำหนักไว้ที่ 8-12 ออนซ์ จากนั้นจึงตั้งชื่อกีฬาชนิดนี้ว่า มินโทเนตต์ (Mintonette)

          ต่อมา ชื่อของ มินโทเนตต์ (Mintonette) ถูกเปลี่ยนเป็น วอลเลย์บอล (Volleyball) หลังได้รับคำแนะนำจาก ศาสตราจารย์ อัลเฟรด ที เฮลสเตด (Professor Alfred T. Helstead) ในงานประชุมสัมมนาผู้นำทางพลศึกษาที่วิทยาลัยสปริงฟิลด์ (Spring-field College) เมื่อปี ค.ศ.1896 (พ.ศ.2439) และกลายเป็นกีฬายอดนิยมในหมู่ประชาชนชาวอเมริกัน จนแพร่หลายออกไปทั่วโลก รวมทั้งมีการปรับปรุงและพัฒนาอยู่เป็นระยะ


กติกาวอลเลย์บอล

สนามแข่งขัน

          -  จะต้องเป็นพื้นไม้หรือพื้นปูนที่มีลักษณะเรียบ ไม่มีสิ่งกีดขวาง

          -   เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 9 เมตร ยาว 12 เมตร ความสูงจากพื้นประมาณ 7 เมตร มีบริเวณโดยรอบห่างจากสนามประมาณ 3 เมตร

          -  แต่หากเป็นสนามมาตรฐานในระดับนานาชาติ กำหนดให้รอบสนามห่างจากสนามประมาณ 5 เมตร ด้านหลังห่าง 8 เมตร และมีความสูง 12.5 เมตร

          -  เส้นรอบสนาม (Boundary lines) ทุกเส้นจะต้องกว้าง 5 เซนติเมตร เป็นสีอ่อนตัดกับพื้นสนาม มองเห็นได้ชัดเจน


          -  เส้นแบ่งเขตแดน (Center line) ที่อยู่ตรงกลางสนาม จะต้องอยู่ใต้ตาข่าย หรือตรงกับเสาตาข่ายพอดี
          

ตาข่าย

          -  จะต้องมีความสูงจากพื้น 2.43 เมตร กว้าง 1 เมตร ยาว 9.5 - 10 เมตร

          -  ตารางในตาข่ายกว้าง 10 เซนติเมตร ผู้ติดไว้กับเสากลางสนาม


          -  ตาข่ายสำหรับทีมหญิงสูง 2.24 เมตร
        


ลูกวอลเลย์บอล


         -  เป็นทรงกลมมีเส้นรอบวงประมาณ 65-67 เซนติเมตร น้ำหนัก 260-280 กรัม

          -  ทำจากหนังสังเคราะห์ที่ยืดหยุ่นได้

          -  ซึ่งในการแข่งขันระดับโลกจะใช้ลูกบอล 3 ลูกต่อการแข่งขัน เพื่อความต่อเนื่องหากบอลออกนอกสนาม


ผู้เล่น


          -  ในทีมจะต้องมีผู้เล่นไม่เกิน 12 คน ผู้ฝึกสอน 1 คน ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน 1 คน เทรนเนอร์ 1 คน และแพทย์ 1 คน

          -  ผู้เล่นจะลงเล่นในสนามได้ครั้งละ 6 คน โดยแบ่งออกเป็นหน้าตาข่าย 3 คน และด้านหลังอีก 3 คน

          -  สามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นครั้งละกี่คนก็ได้ โดยผู้เล่นเดิมที่ถูกเปลี่ยนออก สามารถเปลี่ยนกลับมาเล่นในสนามได้อีก

          -  การแต่งกายในชุดแข่งขัน ต้องแต่งกายเหมือนกันทั้งทีม ประกอบไปด้วย เสื้อสวมคอ กางเกงขาสั้น ถุงเท้า และรองเท้าผ้าใบพื้นยางที่ไม่มีส้น โดยผู้เล่นแต่ละคนจะต้องติดหมายเลขกำกับไว้ที่เสื้อ กำหนดให้ใช้เลข 1-18 เท่านั้น สำหรับหัวหน้าทีมจะต้องมีแถบผ้าขนาด 8x2 เซนติเมตร ติดอยู่ใต้หมายเลขบริเวณอกเสื้อด้วย



วิธีการเล่น

          -  ทีมที่ได้เสิร์ฟ จะต้องให้ผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่งขวาหลัง เป็นผู้เสิร์ฟเพื่อเปิดเกม จากนั้นผู้เล่นทุกตำแหน่งจะขยับตำแหน่งวนไปตามเข็มนาฬิกา

          -  การเสิร์ฟจะต้องรอฟังสัญญาณนกหวีดก่อน และให้เริ่มเสิร์ฟลูกบอลภายใน 5 วินาที

          -  ทีมที่ได้คะแนนจะเป็นผู้ได้เสิร์ฟ จนกว่าจะเสียคะแนนให้ฝ่ายตรงข้ามจึงจะเปลี่ยนเสิร์ฟ

          -  เมื่อลูกเข้ามาในเขตแดนของทีม จะสามารถเล่นบอลได้มากที่สุด 3 ครั้งเท่านั้น

          -  สามารถบล็อคลูกบอลจากฝ่ายตรงข้ามที่หน้าตาข่ายได้ แต่หากผู้เล่นล้ำเข้าไปในแดนของฝ่ายตรงข้ามจะถือว่าฟาวล์

          -  สามารถขอเวลานอกได้ 2 ครั้งต่อ 1 เซต ให้เวลาครั้งละ 30 วินาที

          -  ทุกครั้งที่แข่งขันจบ 1 เซต จะต้องมีการเปลี่ยนฝั่ง


การคิดคะแนน

          -  ทีมจะได้คะแนนเมื่อลูกบอลตกลงในเขตสนามของฝ่ายตรงข้าม โดยนับเป็นลูกละ 1 คะแนน และหากมีการเสียคะแนน จะต้องเปลี่ยนให้ทีมที่ได้คะแนนเป็นผู้เสิร์ฟ

          -  หากทีมไหนได้คะแนนครบ 25 คะแนนก่อน ก็จะเป็นผู้ชนะในเซตนั้นไป แต่หากคะแนนเสมอกันที่ 24-24 จะต้องมีการดิวซ์ (Deuce) หมายถึงต้องทำคะแนนให้มากกว่าอีกฝ่าย 2 คะแนน ถึงจะเป็นผู้ชนะ เช่น 26-24 หรือ 27-25 เป็นต้น

          -  ต้องแข่งขันกันให้ชนะ 3 ใน 5 เซต จึงจะเป็นผู้ชนะในเกมนั้น

          และนี่คือข้อมูลคร่าว ๆ ของกีฬาวอลเลย์บอล เมื่อรู้จักกีฬาชนิดนี้กันแล้ว ก็อย่าลืมทำความเข้าใจกติกามารยาทในการแข่งขัน และเล่นกีฬากันอย่างมีน้ำใจนักกีฬากันด้วยนะครับบ ><




 นักกีฬาวอลเลย์บอลทีมชาติไทย



วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย เป็นทีมวอลเลย์บอลหญิงของประเทศไทย เป็นทีมที่มีการพัฒนาการเล่นอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากการเข้าร่วมการแข่งขันวอลเลย์บอลชิงแชมป์โลกได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ในปี ค.ศ. 1998 หลังจากนั้นในปี ค.ศ. 2002 จึงได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันวอลเลย์บอลเวิลด์กรังด์ปรีซ์ในส่วนโควต้าทวีปเอเชียเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ยกเว้นปี ค.ศ. 2007 (ถอนทีมไปแข่งกีฬามหาวิทยาลัยโลกที่ไทยเป็นเจ้าภาพ) โดยสร้างผลงานได้ดีที่สุดในปี ค.ศ. 2012 ที่สามารถคว้าอันดับ 4 ของการแข่งขันมาครองได้สำเร็จ
ทีมวอลเลย์บอลหญิงของไทยได้พัฒนาการเล่นมาโดยตลอดจนก้าวขึ้นเป็นทีมระดับแนวหน้าของทวีปเอเชีย โดยคว้าอันดับ 3 การแข่งขันวอลเลย์บอลชิงแชมป์เอเชียได้ 2 ครั้ง ในปี ค.ศ. 2001 และ ค.ศ. 2007 ก่อนสร้างประวัติศาสตร์เมื่อสามารถเอาชนะทีมชาติจีน 3-1 เซต เป็นแชมป์ทวีปเอเชียเป็นครั้งแรกในการแข่งขันวอลเลย์บอลชิงแชมป์เอเชียในปี ค.ศ. 2009 ที่สนามกวนเงือ ประเทศเวียดนาม ทำให้ได้เป็นตัวแทนทวีปเอเชียไปแข่งขันวอลเลย์บอลเวิลด์แกรนด์แชมป์เปี้ยนคัพในปี ค.ศ. 2009 จากนั้นในปี ค.ศ. 2012 สามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ได้อีกครั้ง เมื่อสามารถคว้าแชมป์วอลเลย์บอลชิงแชมป์เอเชียนคัพมาครองเป็นครั้งแรกได้สำเร็จ หลังจากเอาชนะทีมชาติจีนได้อีกครั้ง 3-1 เซต ที่ประเทศคาซัคสถาน ต่อมาในปี ค.ศ. 2013 สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ ในการแข่งขันวอลเลย์บอลชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศไทย เมื่อสามารถคว้าแชมป์ในการแข่งขันรายการนี้ได้อีกครั้ง หลังเอาชนะทีมชาติญี่ปุ่น 3-0 เซตในรอบชิงชนะเลิศ นับเป็นการคว้าแชมป์เอเชียครั้งที่ 2 โดยเป็นการคว้าแชมป์ในประเทศไทยได้เป็นครั้งแรกอีกด้วย จากการคว้าแชมป์ทำให้ได้สิทธิ์ไปแข่งขันวอลเลย์บอลเวิลด์แกรนด์แชมป์เปี้ยนคัพที่ประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง ในฐานะแชมป์ของทวีปเอเชีย โดยสร้างผลงานคว้าอันดับ 5 มาครอง
ปัจจุบันทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยเป็นทีมวอลเลย์บอลหญิงอันดับ 12 ของโลก และยังคงเดินหน้าสร้างความสำเร็จต่อไป โดยมีชาวไทยทั่วประเทศสนใจให้การสนับสนุนและติดตามอย่างใกล้ชิด จนถือได้ว่าเป็นทีมกีฬาที่ครองใจในระดับมหาชน

รายชื่อนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย รายการ เอเชี่ยนเกมส์ 2014
           1. นุศรา ต้อมคำ
           2. ปริญญา พานแก้ว
           3. อรอุมา สิทธิรักษ์
           4. วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์
           5. ปลื้มจิตร์ ถินขาว
           6. ทัดดาว นึกแจ้ง
           7. แก้วกัลยา กมุทะลา
           8. มลิกา กันทอง
           9. ฐาปไพพรรณ ไชยศรี
           10. คัทลีย์ ปิ่นสุวรรณ
           11. เอมอร พานุสิทธิ
           12. ปิยะนุช แป้นน้อย 


       รายชื่อนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย รายการ AVC CUP 2014 
             1. นางสาววรรณา บัวแก้ว
             2.นางสาวยุพา สนิทกลาง
             3.นางสาวหัทยา บำรุงสุข
             4.นางสาวสินีนาฏ โพธิ์เจริญ
             5.เด็กหญิงชัชชุอร โมกศรี
             6.นางสาววณิชยา หล่วงทองหลาง
             7.นางสาวจรัสพร บรรดาศักดิ์
             8.นางสาวพรพรรณ เกิดปราชญ์
             9.นางสาวกัตติกา แก้วพิน
            10.นางสาวอัจฉราพร คงยศ
            11.นางสาวกรรณิการ์ ธิปะโชติ
            12.นางสาวโสรยา พรมหล้า

ผู้จัดการทีม นายถาวร กมุทศรี
ผู้ฝึกสอน นายเกียรติพงศ์ รัชตะเกรียงไกร
ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน นายชำนาญ ดอกไม้
ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน นายเชิดพันธ์ ทองธรรมชาติ
แพทย์ประจำทีม นายแพทย์อี๊ด ลอประยูร
นักกายภาพ นางสาวรัตน์กมล จิระอำนวยพร

วันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2557







แบบฝึกหัด
บทที่ 4 เทคโนโลยีสารสนเทศ                                                      กลุ่มเรียน 2
รายวิชา  การจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                        รหัสวิชา 0026008
ชื่อ  นายณัฐนนท์  สกุล จันทร์ตา รหัส 57011010263

คำชี้แจง  จงตอบคำถามต่อไปนี้
1.      ให้นิสิตยกตัวอย่างอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศตามหัวข้อต่อไปนี้ อย่างน้อยหัวข้อละ 3 ชนิด แล้วแลกเปลี่ยนกันตรวจสอบกับเพื่อน
1)      การบันทึกและจัดเก็บข้อมูล  
          -  แผ่นซีดี

           -  ฮาร์ดดิสท์
                  -  USB ไดร์ฟ (แฟรซไดรฟ์)   

2)      การแสดงผล
              -  จอภาพ คอมพิวเตอร์
        -  จอโปรเจ็กเตอร์
        -  เครื่องพิมพ์

3)      การประมวลผล  
      -  ฮาร์ดแวร์
          -  OS 
     -  ซอฟต์แวร์   
  
4)      การสื่อสารและเครือข่าย
     -  การประชุมผ่านทางจอภาพ
  -  อินเตอร์เน็ต
  -  ห้องสมุดอีเล็กทรอนิกส์

2.       ให้นิสิตนำตัวเลขในช่องขวา มาเติมหน้าข้อความในช่องซ้ายที่มีความที่สัมพันธ์กัน
…8… ซอฟต์แวร์ประยุกต์
1. ส่วนใหญ่ใช้ทำหน้าที่คำนวณ ประมวลผลข้อมูล
…3… Information Technology
2. e-Revenue
…1… คอมพิวเตอร์ในยุคประมวลผลข้อมูล
3. เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่นำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินการเกี่ยวกับสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความถูกต้องแม่นยำ และความรวดเร็วต่อการนำไปใช้
…6…เทคโนโลยีสารสนเทศ ประกอบด้วย
4.มีองค์ประกอบพื้นฐาน 3 ส่วน ได้แก่ Sender Medium และDecoder
…10…ช่วยเพิ่มผลผลิต เพิ่มต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการททำงาน
5. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการรับ-ส่งเอกสารจากหน่วยงานหนึ่งไปยังอีกหน่วยงานหนึ่งโดยส่งผ่านเครือข่าย

…7… ซอฟต์แวร์ระบบ
6. เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
…9… การนำเสนอบทเรียนในรูปมัลติมีเดีย ที่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ตามระดับความสามารถ
7. โปรแกรมที่ทำหน้าที่ใช้ควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในระบบคอมพิวเตอร์
…5… EDI
8. โปรแกรมระบบห้องสมุดอัตโนมัติ จัดเป็นซอฟต์แวร์ประเภท
…4… การสื่อสารโทรคมนาคม
9. CAI
…2…บริการชำระภาษีออนไลน์
10. ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ